![]() |
ภิกษุ ท. ! สมัยใด จิตฟุ้งซ่าน สมัยนั้น มิใช่กาล เพื่อเจริญธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ มิใช่กาล เพื่อเจริญวิริยสัมโพชฌงค์ มิใช่กาล เพื่อเจริญปีติสัมโพชฌงค์. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? เพราะจิตฟุ้งซ่าน จิตที่ฟุ้งซ่านนั้น ยากที่จะให้ สงบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น. เปรียบเหมือนบุรุษต้องการจะดับไฟกองใหญ่ เขา จึงใส่หญ้าแห้ง โคมัยแห้ง ไม้แห้ง เอาปากเป่า และไม่โรย ฝุ่นลงไปในกองไฟใหญ่นั้น บุรุษนั้นสามารถจะดับไฟกอง ใหญ่ได้หรือหนอ ? “ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า !” ฉันนั้นเหมือนกัน… ภิกษุ ท. ! สมัยใด จิตฟุ้งซ่าน สมัยนั้น เป็นกาล เพื่อเจริญปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ เป็นกาล เพื่อเจริญสมาธิสัมโพชฌงค์ เป็นกาล เพื่อเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? เพราะจิตฟุ้งซ่าน จิตที่ฟุ้งซ่านนั้น ให้สงบได้ง่าย ด้วยธรรมเหล่านั้น. เปรียบเหมือนบุรุษต้องการจะดับไฟกองใหญ่ เขา จึงใส่หญ้าสด โคมัยสด ไม้สด พ่นน้ำ และโรยฝุ่นลงในกอง ไฟใหญ่นั้น บุรุษนั้นจะสามารถดับกองไฟกองใหญ่นั้นได้ หรือหนอ ? “ได้ พระเจ้าข้า !” ฉันนั้นเหมือนกัน... ภิกษุ ท. ! เรากล่าว “สติ” แลว่า มีประโยชน์ในที่ทั้งปวง. มหาวาร. สํ. ๑๙/๑๕๕/๕๖๘. |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น