วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

"สิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ควรทำความผูกพัน เพราะเป็นสิ่งที่ล่วงไปแล้วอย่างแท้จริง
แม้กระทำความผูกพันและมั่นใจในสิ่งนั้นกลับมาเป็นปัจจุบันก็เป็นไปไม่ได้
ผู้ทำความสำคัญมั่นหมายนั้นเป็นทุกข์แต่ผู้เดียวโดยความไม่สมหวังตลอดไป
อนาคตที่ยังมาไม่ถึงนั้นเป็นสิ่งไม่ควรไปยึดเหนี่ยวเกี่ยวข้องเช่นกัน
อดีตปล่อยไว้ตามอดีต อนาคตปล่อยไว้ตามกาลของมัน
ปัจจุบันเท่านั้นจะสำเร็จประโยชน์ได้เพราะอยู่ในฐานะที่ควรทำได้ ไม่สุดวิสัย"

หลวงปู่มั่น ภูริทตฺตเถระ


หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป

"ทำดีไม่ได้ดี
เพราะยังทำไม่ถึงดี
หรือทำเกินพอดี"

....หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป


หลวงปู่ท่อน ญาณธโร

"ถ้าท่านรู้ตัวท่านดีว่าท่านไม่ได้ผิด ก็ไม่ต้องเกรงกลัวอะไรทั้งนั้น
ไม่เห็นจะต้องหวั่นไหวอะไรเลย ต่อให้คนทั้งโลกจะชี้หน้าว่าผิด
แม้ตัวผมเอง (หลวงปู่ชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง)ก็ไม่ต้องหวั่นไหว"

...หลวงปู่ท่อน ญาณธโร



หลวงปู่ชา สุภทฺโท

"มันสุขแล้ว มันก็ทุกข์ ทุกข์แล้ว มันก็สุข เรื่องของมันเป็นอย่างนี้ 
ก็ปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้ นั้นคือเรื่องของความไม่เที่ยง"

หลวงปู่ชา สุภทฺโท


ท่านพ่อลี ธมฺมธโร

อาตมาตั้งใจไว้ว่า...“จะให้เลือดทุกๆ หยดในร่างกายตั้งแต่ศรีษะ
จรดปลายเท้าเป็นไปเพื่อกิจพระศาสนาไม่ว่าจะเป็นบนฟ้าหรือใต้ดินก็จะต้องขอเอาจนสุดชีวิต”

...ท่านพ่อลี ธมฺมธโร




หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม

"นักปฏิบัติในพุทธศาสนานี้ เมื่อเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามพระวินัย ดำเนินตามธรรมวินัย ตามหนทางอริยมรรคถูกต้อง ตลอดจิตประชุมอริยมัตถสมังคีเองแล้ว ย่อมบังเกิดอริยพลแจ้งประจักษ์ใจ"

....หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม





วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555

หลวงปู่เสาร์ กันฺตสีโล


...ยากนักที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์ เพราะต้องตั้งอยู่ในธรรมของมนุษย์ คือ ศีล5 และกุศลกรรม
บท10 จึงจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ชีวิตที่เป็นมานี้ก็ได้ด้วยยากยิ่งนัก เพราะอันตรายชีวิตทั้ง
ภายในภายนอกมีมากต่างๆ การที่ได้ฟังธรรมของสัตตบุรุษ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้
ก็ได้ด้วยยากยิ่งนัก เพราะกาลที่เปล่าว่างอยู่ ไม่มีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกยืดยาวนานนัก
บางคาบบางสมัยจึงจะมีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกสักครั้งสักคราวหนึ่ง เหตุนั้นเราทั้งหลาย
พึงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด อย่าให้เสียที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนานี้เลย

...เถระธรรมหลวงปู่เสาร์ กันฺตสีโล
รูปภาพ : ...ยากนักที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์ เพราะต้องตั้งอยู่ในธรรมของมนุษย์ คือ ศีล5 และกุศลกรรม
บท10 จึงจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ชีวิตที่เป็นมานี้ก็ได้ด้วยยากยิ่งนัก เพราะอันตรายชีวิตทั้ง
ภายในภายนอกมีมากต่างๆ การที่ได้ฟังธรรมของสัตตบุรุษ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้ 
ก็ได้ด้วยยากยิ่งนัก เพราะกาลที่เปล่าว่างอยู่ ไม่มีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกยืดยาวนานนัก 
บางคาบบางสมัยจึงจะมีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกสักครั้งสักคราวหนึ่ง เหตุนั้นเราทั้งหลาย
พึงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด อย่าให้เสียที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนานี้เลย

...เถระธรรมหลวงปู่เสาร์ กันฺตสีโล

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย


หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
"การเปิดเทปให้ฟังบางทีคนไข้ถ้าตั้งใจจดจ่อฟังก็มีอานิสงส์ให้สุคติได้ แม้ว่าคำเตือนเพียงคำเดียวว่า จงทำสติระลึกถึงคุณพระคุณเจ้านะ เพียงแค่นี้เขาระลึกพระพุทโธ ธัมโม สังโฆ ในขณะนั้นก็สามารถที่จะไปสุคติได้ เช่น มัฏฐกุณฑลี ซึ่งเจ็บป่วยหนัก บิดาเป็น คนขี้เหนียว ไม่หายามารักษา พระพุทธเจ้าพิจารณาเห็นแล้วว่า เด็กคนนี้ในวันพรุ่งนี้จะตาย เมื่อตายลงไปแล้วจะตกนรก พระองค์ก็เสด็จไปโปรด พระองค์ทรงเปล่งรัศมีไปเตือนให้รู้ว่า พระองค์เสด็จมาโปรด นายมัฏฐกุณฑลีหันกลับมามองดูพระพุทธเจ้าเพียงแว๊บเดียว แล้วก็เกิดความเลื่อมใสขึ้นมา “โอ้โฮ้ ! พระพุทธเจ้าอัศจรรย์หนอ” แล้วก็ตาย ตายแล้วไปเกิดเป็นเทพบุตร อันนี้เป็นตัวอย่าง"
รูปภาพ : หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
"การเปิดเทปให้ฟังบางทีคนไข้ถ้าตั้งใจจดจ่อฟังก็มีอานิสงส์ให้สุคติได้ แม้ว่าคำเตือนเพียงคำเดียวว่า จงทำสติระลึกถึงคุณพระคุณเจ้านะ เพียงแค่นี้เขาระลึกพระพุทโธ ธัมโม สังโฆ ในขณะนั้นก็สามารถที่จะไปสุคติได้ เช่น มัฏฐกุณฑลี ซึ่งเจ็บป่วยหนัก บิดาเป็น คนขี้เหนียว ไม่หายามารักษา พระพุทธเจ้าพิจารณาเห็นแล้วว่า เด็กคนนี้ในวันพรุ่งนี้จะตาย เมื่อตายลงไปแล้วจะตกนรก พระองค์ก็เสด็จไปโปรด พระองค์ทรงเปล่งรัศมีไปเตือนให้รู้ว่า พระองค์เสด็จมาโปรด นายมัฏฐกุณฑลีหันกลับมามองดูพระพุทธเจ้าเพียงแว๊บเดียว แล้วก็เกิดความเลื่อมใสขึ้นมา “โอ้โฮ้ ! พระพุทธเจ้าอัศจรรย์หนอ” แล้วก็ตาย ตายแล้วไปเกิดเป็นเทพบุตร อันนี้เป็นตัวอย่าง"

หลวงปู่ชา สุภทฺโท


หลวงปู่ชา สุภทฺโท
"กิเลสนี้เหมือนแมว ถ้าให้กินตามใจแล้วก็ยิ่งมาเรื่อยๆ
อีกวันหนึ่งมันกวนหนักเข้าก็ไม่ต้องให้อาหารมันเถอะ
มันจะมากี่วันก็ 'ช่างมัน' เมื่อไม่เห็นจานข้าวก็หนีเท่านั้นแหละ
นี่เรียกว่ากิเลสไม่ครอบเราแล้วเราก็จะได้สบายต่อไป"
รูปภาพ : หลวงปู่ชา สุภทฺโท
"กิเลสนี้เหมือนแมว ถ้าให้กินตามใจแล้วก็ยิ่งมาเรื่อยๆ
อีกวันหนึ่งมันกวนหนักเข้าก็ไม่ต้องให้อาหารมันเถอะ
มันจะมากี่วันก็ 'ช่างมัน' เมื่อไม่เห็นจานข้าวก็หนีเท่านั้นแหละ
นี่เรียกว่ากิเลสไม่ครอบเราแล้วเราก็จะได้สบายต่อไป"